🌟เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ วาซาบิ (わさび)ตอนที่ 1 🌟

ถ้าพูดถึง✨วาซาบิ (わさび)✨ ทุกคนก็ต้องนึกถึงซูชิ🍣 กับซาชิมิ และก็ต้องนึกถึงความเผ็ด ฉุนจนขึ้นจมูก จนทำให้น้ำตาเล็ด แน่นอนค่ะ แต่จะมีใครรู้จริงๆว่า “วาซาบิ (わさび)” นั้น คืออะไร⁉️
วันนี้เราก็เลยจะมาให้ความรู้กันค่า😃

ฟาร์มวาซาบิ
✨“วาซาบิ (わさび)” นั้น เป็นพืชสมุนไพรของญี่ปุ่น เป็นไม้ล้มลุกที่อยู่ในตระกูลเดียวกับพวกบรอกโคลีและกะหล่ำ สามารถปลูกได้ทั้งบนดิน และพื้นน้ำ โดยปลูกบนพื้นน้ำจะให้คุณภาพที่ดีกว่า เชื่อว่าแหล่งกำเนิดมาจากเกาะซาฮาลินทางทิศเหนือของฮกไกโด ต่อมาแพร่กระจายไปทั่วเกาะญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จะนิยมปลูกในแหล่งน้ำมากกว่าบนพื้นดิน และต้องเป็นแหล่งน้ำที่มีน้ำไหลผ่านตลอดเวลาด้วย เช่น ลำธารบนภูเขา และต้นวาซาบินี้ไม่ชอบแสงแดดที่ส่องลงมามาก ดังนั้นจึงต้องได้รับการดูแลอย่างดี ต้นวาซาบิเลยต้องใช้เวลายาวถึงประมาณ 1 ปีครึ่ง-3 ปี เลยทีเดียวกว่าจะสามารถเก็บเกี่ยวเอาผลผลิตมาขายได้ค่า

🌱ลักษณะของ “วาซาบิ (わさび)” ใบของวาซาบิจะคล้ายกับดอกของต้นโฮลีฮอค ต้นมีความสูงแค่เข่า ส่วนโคนลำต้นที่ใช้ในการทำอาหารมีลักษณะเป็นหัวเหมือนหัวไชเท้าหรือบอระเพ็ด แต่เป็นสีเขียวอ่อนๆ เมื่อบดแล้วมีกลิ่นที่ฉุนรุนแรง ถ้ารับประทานจะให้ความรู้สึกแสบร้อนขึ้นจมูกในระยะสั้นๆ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นความกลมกล่อม ทั้งหวานและขมผสมกันไป และมีรสชาติเผ็ดๆนิดนึง

✨“วาซาบิ (わさび)” แบบออกเป็น 2 สายพันธุ์ คือ Matsuma (ก้านม่วง)และ Misho (ก้านเขียว)
- Matsuma (ก้านม่วง) จะมีความเหนียว รสชาติเผ็ด กลิ่นฉุน และเข้มข้นกว่า เป็นที่ต้องการของโรงแรม 5 ดาวและร้านซูชิในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะมีราคาแพงกว่า Misho และจะใช้เวลาปลูกนานมากกว่า 2 ปี จึงจะมีความยาวมากกว่า Misho
- Misho (ก้านเขียว) มีรสชาติที่สดชื่น ฉ่ำน้ำและกลิ่นฉุนอ่อนๆ

🔴การเลือกวาซาบิ จะต้องเลือกคอบาง เพราะว่า วาซาบิ จะแข็งแรง มีการดูดซึมแร่ธาตุดี ,มีตุ้มนูนเรียงตัวสวย มีระยะห่างเท่าๆ กัน แสดงว่ามีการดูดซึมแร่ธาตุสม่ำเสมอ จะทำให้วาซาบิมีรสชาติที่เผ็ดและหวาน ส่วนปลายต้องไม่กลายเป็นสีดำ ไม่เป็นสีดำแปลว่าสดใหม่ และจะต้องเลือกก้านที่แข็งแรง
🌟🌟ติดตามต่อ ตอนที่ 2 นะค่ะ 😘😘😘
Eine Japan.Co., Ltd
Line office : @einejapan (อย่าลืม @ข้างหน้าด้วยนะค่ะ)
Line:ickkyusan
Facebook:วินัย คฤโฆษกุล
เพจ:เช่ารถเที่ยวในญี่ปุ่น